ส่งออกไทยระส่ำ สหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทย On Top โดนหลายเด้ง

16 กรกฎาคม 2568
ส่งออกไทยระส่ำ สหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทย On Top โดนหลายเด้ง

ส่งออกไทยระส่ำ สหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทย On Top โดนหลายเด้ง

ไทยเสี่ยงเจอผลกระทบหนักภาษีสหรัฐฯ เริ่มบังคับใช้ 1 ส.ค. 2568 สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าแบบ On Top โดนหลายเด้ง ภาษีศุลกากร และ AD/CVD ดันภาษีรวมสินค้าบางตัวสูงกระทบหนัก

นับถอยหลัง 16 วันสุดท้ายก่อนโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศ มาตรการภาษีตอบโต้ทางการค้า (Reciprocal Tariff) โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ส.ค. 2568 เป็นต้นไป ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายการคืนดุลการค้าจากสหรัฐฯ ถูกเรียกเก็บอัตราภาษีสูงถึง 36% นับว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักสุด

ปัจจุบันยังมีหลายฝ่ายเข้าใจว่าสินค้าส่งออกไทยจะถูกเก็บภาษีในอัตราที่สหรัฐฯ จะประกาศใช้ วันที่ 1 ส.ค. 2568 สิ่งที่น่ากังวลคืออัตรภาษีที่มีการเก็บแบบ On top นั่นคือการเก็บอัตราภาษีศุลกากร บวกกับ Reciprocal Tariffs

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่า ที่ผ่านมาสินค้าสหรัฐนำเข้าจากประเทศไทย จะมีการเก็บอัตราภาษีศุลกากรอยู่ เช่น ข้าวเก็บภาษี 5% ยางล้อเก็บภาษี 40% เฟอร์นิเจอร์ 3% ปัจจุบันสหรัฐฯ ได้มีการประกาศเรียกเก็บอัตราภาษีจากไทยสูงถึง 36% โดยจะมีผลบังคับใช้ วันที่ 1 ส.ค. 2568

ปัจจุบันสหรัฐฯมีการใช้ Reciprocal Tariffs เก็บภาษีนำเข้า 10% กับทุกรายสินค้าโดนเก็บภาษีแบบ On top เช่น เฟอร์นิเจอร์ เก็บภาษีศุลกากร 3% และ Reciprocal Tariffs 10% รวมเป็น 13%

ทั้งนี้ ยังมีกลุ่มสินค้าที่ได้รับการยกเว้นการเก็บ Reciprocal Tariffs คือ กลุ่ม Sectoral Tariff หรือกลุ่มสินค้ามาตรา 232 ภายใต้พระราชบัญญัติ Trade Expansion Act 1962 เนื่องจากมีผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ คือ เหล็กกล้า อะลูมิเนียม เก็บภาษี 50% สินค้ารถยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ 25%

นอกจากนี้ยังมีสินค้าบางกลุ่มสินค้าที่สหรัฐฯขู่ เก็บภาษี เช่น กลุ่มทองแดง กลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้ เซมิคอนดักเตอร์ กลุ่มฟาร์มาซีนิเคิล เป็นต้น

ทั้งนี้ในกรณีที่มีสินค้าโดนภาษี AD / CVD มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด / มาตรการตอบโต้การอุดหนุน ซึ่งทางสหรัฐมีการเก็บภาษีเพิ่ม ขึ้นอยู่ตัวรายการสินค้าและตัวบริษัท เช่น เฟอร์นิเจอร์ เก็บภาษี 30% จะโดนเก็บภาษี Reciprocal Tariffs ด้วย

ยกตัวอย่าง เฟอร์นิเจอร์ นำเข้าสหรัฐปกติ 3% เก็บภาษีการทุ่มตลาด 30% และ Reciprocal Tariffs 10% รวมเป็น 43% 

ข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศไทย มาตรการป้องกันการทุ่มทางการค้า พบว่า สินค้าไทยโดนมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด / ภาษีตอบโต้การอุดหนุน (AD / CVD) จากทางสหรัฐ ได้แก่

1. กุ้งแช่แข็ง ออกคำสั่ง (AD) 

2. สารเรซินอีพ็อกซี่ ออกคำสั่ง (AD) อัตราการเก็บภาษี 5.25 %

3. เซลล์แสงอาทิตย์ (Crystalline Photovoltaic Cells / Solar Cells) ออกคำสั่ง (AD / CVD)

  • บริษัท Trina Solar Science & Technology (Thailand) Co., Ltd. อัตราการเก็บภาษี (AD) 111.45% อัตราการเก็บภาษี (CVD) 255.39%
  • บริษัท Taihua New Energy (Thailand) Co., Ltd อัตราการเก็บภาษี 172.68% อัตราการเก็บภาษี (CVD) 774.50%
  • บริษัท Sunshine Electrical Energy Co., Ltd อัตราการเก็บภาษี 172.68% อัตราการเก็บภาษี (CVD) 774.50%
  • ผู้ผลิต/ผู้ส่งออกรายอื่น ๆ อัตราการเก็บภาษี 111.45% อัตราการเก็บภาษี (CVD) 255.39%

5. จานกระดาษ (Paper Plates) ออกคำสั่ง AD อัตราการเก็บภาษี 5.57%

6.อะลูมิเนียมอัดขึ้นรูป ออกคำสั่ง (AD)

7. ชั้นวางของเหล็กอเนกประสงค์ ออกคำสั่ง (AD) อัตราภาษีเรียกเก็บ 2.75%

8. สินค้าเส้นใยโพลีเอสเตอร์ ออกคำสั่ง (AD)

9. สินค้ายางรถยนต์โดยสารและรถบรรทุกขนาดเล็ก ออกคำสั่ง (AD) อยู่ระหว่างการไต่สวนทบทวน

10. สินค้าฟูก ออกคำสั่ง (AD) มีอัตราการเก็บภาษี

  • Nisco (Thailand) Co., Ltd. 763.28%
  • Saffron Living Co., Ltd. 37.48%
  • All Others 37.48%

11. Carbon and Alloy Steel Threaded Rod ออกคำสั่ง (AD) อัตราภาษีเรียกเก็บ 20.83%

12. กรดซิทริกและเกลือซิเทรต ออกคำสั่ง (AD) อัตราภาษีเรียกเก็บ 15.71%

13. ถังแก๊ส ออกคำสั่ง (AD) อัตราภาษีเรียกเก็บ

14. ไกลซีน ออกคำสั่ง (AD) อัตราภาษีเรียกเก็บ 201.59% - 227.17%

15. ถุงพลาสติกชนิดใช้หิ้ว ออกคำสั่ง (AD) อัตราภาษีเรียกเก็บ 4.69% - 122.88%


แหล่งที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.